หลังจากที่องค์กรผู้บริโภคและนักวิชาการด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้จัดการความรู้กันมาพอสมควร ขณะนี้ข้อมูลอันตรายจากแร่ใยหินมีความชัดเจน ในเรื่องของโรคมะเร็งปอดและปอดอักเสบ รวมภึง การยกเลิกในประเทศต่างๆกว่าห้าสิบประเทศทั่วโลก แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ยังไม่ได้แสดงบทบาทอย่างชัดเจน ในการจัดการดังกล่าวน่าจะมีคำถามอย่างน้อยสามประการ
คำถามแรก คือ หน่วยงานใดเป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง
แม้ว่า สคบ ได้ ออกประกาศ ให้ระบุ คำเตือน อันตรายจากโรคปอดและมะเร็งปอด แต่ องค์กรผู้บริโภค สงสัยว่า ทำไม สคบ ไม่ทำอะไรมากกว่านี้ ความจริงแล้วมีหน่วยงานรัฐ ที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง ที่เกี่ยวข้องอย่างสำคัญ คือ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพ
พรบ วัตถุอันตราย พ.ศ. ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการวัตถุอันตรายคณะหนึ่ง ประกอบด้วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานกรรมการ ดังนั้นความรับผิดชอบโดยตรงจึงอยู่ที่ กระทรวงอุตสาหกรรม
ในคณะกรรมการดังกล่าว มีส่วนที่เกี่ยวกับ กระทรวงสาธารณสุข คือ อธิบดีกรมการแพทย์ และ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นอกจากนี้แล้ว เป็นผู้แทนกระทรวงต่างๆ รวมถึง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างน้อยสองคนให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ดำเนินงานใน องค์การสาธารณประโยชน์เพื่อการคุ้มครองสุขภาพอนามัย หรือสิ่งแวดล้อม
คำถามที่สอง คือ คณะกรรมการวัตถุอันตราย เป็นใครบ้างและ ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับแร่ใยหิน
คำถามที่สามคือ หากต้องตัดสินใจแล้ว คณะกรรมการดังกล่าวต้องทำอย่างไร
ใน พรบ วัตถุอันตราย มาตรา 18 แบ่งวัตถุอันตรายออกตามความจำเป็นแก่การควบคุม แยกเป็น 4 ชนิด ปัจจุบัน แร่ใยหินไครโซไทล์ เป็น วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครองต้องได้รับใบอนุญาต การที่จะดำเนินการยกเลิกจึงต้องจัดให้แร่ใยหินไครโซไทล์ เป็น วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งได้แก่วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง
การที่จะให้มีการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีอำนาจและหน้าที่ให้ความเห็นแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในการ ออกประกาศตาม มาตรา 18 วรรคสอง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมโดยความเห็นของคณะกรรมการมี อำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาระบุชื่อหรือคุณสมบัติของวัตถุอันตราย ชนิดของวัตถุอันตราย กำหนดเวลาการใช้บังคับและหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการควบคุมวัตถุอันตรายดังกล่าว
ที่จริงแล้ว การยกเลิกแร่ใยหินไครโซไทล์เป็น เรื่องที่ไม่ต้องรอการปฏิรูป หากผู้รับผิดชอบ คือ กระทรวงอุตสาหกรรม จัดให้แร่ใยหินไครโซไทล์ เป็น วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ทันที แต่หากผู้รับผิดชอบยังนิ่งดูดาย โครงการองค์การอิสระผู้บริโภคจำลอง ซึ่งดำเนินการโดยเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค น่าจะทดลองทำหนังสือขอความเห็นอิสระจากรรมการทุกท่าน ซึ่งจะถือเป็นแบบฝึกหัดบทเรียนบทหนึ่ง ในขณะที่รอ พรบ องค์การอิสระผู้บริโภค ตามมาตรา 61 ของรัฐธรรมนูญ 2550 |