เตือนภัยมะเร็งปอดจากใยหิน โครงการ “หละปูนฮ่วมใจ๋ ไร้แร่ใยหิน” ขับเคลื่อนต่อเนื่อง


วันที่ 30 พ.ค.60 เทศบาลตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จัดอบรมกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายจากการใช้วัสดุที่ปนเปื้อนแร่ใยหิน ตามโครงการรณรงค์ “ฮิมปิงฮ่วมใจ๋ ไร้แร่ใยหิน” โดยการสนับสนุนของชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลริมปิง ขอรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลริมปิง จัดอบรมสล่า (ช่างก่อสร้าง) ผู้รับเหมา ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อสม. และคณะกรรมการกองทุนสุขภาพตำบลริมปิง จากทุกหมู่บ้าน จำนวน 50 คน ในหัวข้อ 1) พิษภัยของแร่ใยหินกับการเจ็บป่วย 2) มาตรการป้องกันอันตรายจากสินค้าที่มีแร่ใยหิน และ 3) ความร่วมมือของชุมชนท้องถิ่นในการป้องกันอันตรายจากสินค้าที่มีแร่ใยหิน
โดยมีท่านเอนก มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรี ตำบลริมปิง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม และนายธวัชชัย กันทะวันนา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้บริหารจัดการอบรมครั้งนี้
วิทยากร ได้แก่ นพ.โภคิน นายแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชุมชน กลุ่มงานอาชีวเวชกรรม โรงพยาบาลลำพูน และ ภก.จิระ วิภาสวงศ์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการรณรงค์แก้ไขปัญหาจากแร่ใยหินในจังหวัดลำพูน

ผู้เข้ารับการอบรมมีความสนใจและตื่นตัวต่อความรู้ที่ได้รับเป็นอย่างยิ่ง มีการซักถามและให้ความเห็นต่อมาตรการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป

รายงานโดย กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน

“อสม. นักวิทย์ฯ เมืองคนดี สุราษฎร์ธานี”  รวมพลังเต็มที่ขับเคลื่อนงานต้านภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพอันตราย

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้การสนับสนุนของ คคส. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัด” จำนวน 2 รุ่น ในวันที่ 22-23 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องออคิด โรงแรมนิภาการ์เด้น อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้เกิดเครือข่ายงานคุ้มครองผู้บริโภคครอบคลุมทุกตำบลทุกอำเภอของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเป้าหมายเน้นสร้างทีมบุคลากรนำร่องที่สำคัญ ประมาณ 520 คน ได้แก่ แกนนำ อสม.นักวิทย์ฯ ประจำตำบลๆ ละ 2 คน และเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงในศูนย์เฝ้าระวังฯ ที่จัดตั้งขึ้น ณ รพ.สต. จำนวน 167 แห่ง โดยมีสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทั้ง 19 อำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นจุดเชื่อมประสานของเครือข่าย

การจัดอบรมได้รับเกียรติจากนายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นประธาน ทำให้เจ้าหน้าที่ทีมพี่เลี้ยงทั้ง รพ.สต. สสอ. และ อสม. ได้รับนโยบายเพื่อขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขและงานคุ้มครองผู้บริโภคสู่ยุค Thailand 4.0 โดยการสมัครเข้าใช้งานหน้าต่างเตือนภัยเป็นศูนย์เฝ้าระวังฯ 135 แห่ง (80%) ส่วนแกนนำ อสม.นักวิทย์ฯ ยังตั้งใจฝึกการใช้งานฐานข้อมูลหน้าต่างเตือนภัย (www.tumdee.org/alert)  และการใช้ชุดทดสอบเบื้องต้นเพื่อตรวจหาสารอันตรายในยาสมุนไพรและเครื่องสำอางที่ได้เก็บตัวอย่างมาล่วงหน้าจากชุมชนของตนเอง เมื่อเห็นผลว่าชุมชนมีเครื่องสำอางหรือยาที่ปนเปื้อนสารอันตราย ก็เกิดความตระหนักของการจัดตั้งศูนย์แจ้งเตือนภัย อสม.และพี่เลี้ยงจึงได้ประเมินศักยภาพของชุมชนตนเอง เพื่อวางแผนต่อยอดพัฒนาสู่ต้นแบบงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยกตัวอย่าง เช่น สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองบ้านตาขุน จะเสริมความเข้มแข็งให้ทีม อสม.นักวิทย์ และศูนย์แจ้งเตือนภัยประจำตำบล โดยเริ่มที่ รพ.สต.บ้านพรุไทย มีการรณรงค์ให้ความรู้ผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาจำหน่ายในร้านชำ ผ่านโครงการ “ร้านชำคุณภาพ 5 ดี 5 ดาว” และมีการประเมินโดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต. สสอ. เภสัชกรโรงพยาบาล และตรวจผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยโดยทีม อสม.นักวิทย์ฯ

ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี จะเร่งจัดอบรมให้ครบทั้ง 4 จังหวัด ภายในเดือนพฤษภาคม 2560  เพื่อขยายทีม อสม.นักวิทย์ฯ ชุมชน และศูนย์เฝ้าระวังให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยจะจัดอบรมครั้งต่อไปในพื้นที่จังหวัดชุมพร ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560

“ผักเคียงน้ำชุบ” อาหารใต้ให้คุณค่าโภชนาการ ทั้ง ลูกฉิ่ง ผักชีล้อม ใบมันปู

อาหารใต้ ในร้านอาหาร ร้านข้าวแกง
จะจัดให้มี น้ำชุบ หรือ น้ำพริกกะปิ ที่กินด้วยกับข้าวเพิ่มรสชาดเสริมรสกับข้าวอื่น มักให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือ จะมีผักให้ด้วย เป็นการเสริมรสชาดเคียงอาหาร เช่น
ลูกฉิ่ง (ช่วยการทำงานระบบทางเดินอาหาร) ผักชีล้อม (เจริญอาหาร ช่วยย่อย) ใบมันปู (เบตาแคโรธีน วิตามินเอ มีเส้ยใย) นอกเหนือจาก ถั่วฝักยาว
แตงกวา และอื่นๆ นี่คือการเสริมทั้งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาดคู่ขนานกันไป เป็นการกินดีอยู่ดีตามวิถีชาวบ้าน จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเสียเงินซื้ออาหารเสริมยาวิเศษหลอกเรา

เตือน”วิตามินแท่งชนิดสูบ” ไร้ประโยชน์ สร้างค่านิยมให้วัยรุ่นสูบบุหรี่ ไม่ดีต่อปอด โฆษณาเกินจริงละเมิดกฎหมาย

ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ชี้  “วิตามินแท่งชนิดสูบ” เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการสร้างค่านิยมให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมที่จะสูบบุหรี่ โดยเป็นการเริ่มจากพฤติกรรมที่คล้ายกัน การอ้างว่าได้วิตามินเพื่อความสวยงามนั้นเป็นไปได้ยากเพราะร่างกายจะได้รับวิตามินจากการดูดซึมในระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก มีเฉพาะวิตามินเอที่ได้รับจากแสงแดด การได้วิตามินจากการสูบจึงไม่มีเหตุผลทางวิชาการมาสนับสนุน และการได้รับควันที่ไม่ใช่อากาศบริสุทธิ์จากออกซิเจนก็อาจเป็นโทษ ที่สำคัญคือ เป็นการโฆษณาเกินจริงละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และอาจถูกตีความว่าผิดข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคควรเร่งพิจารณาบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในเรื่องสิทธิด้านความปลอดภัยและสิทธิในการ ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นธรรม ตามสาระในรัฐธรรมนูญ พศ ๒๕๖๐ ในมาตรา ๖๑

แพร่ ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนทั้งจังหวัด จัดการปัญหาเครื่องสำอางปลอมเลขจดแจ้ง และยาน้ำแผนโบราณใส่สารเสตียรอยด์

 

วันที่ 19 พ.ค. 2560
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ จัดการอบรมโครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดแพร่ ณโรงแรมแพร่นครา จังหวัดแพร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ รพ.สต. รพช. สสอ. สสจ. และอสม.ตำบลละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 338 คน ใน 8 อำเภอโดยมีนายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สสจ.แพร่ เป็นประธานเปิดงาน

มีการบรรยายอันตรายของผลิตภัณฑ์สุขภาพ การจัดการสุขภาพด้วยหน้าต่างแจ้งเตือนภัย และการใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย 4 ชุด ได้แก่สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง และสารเสตียรอยด์)

ภาคฝึกปฏิบัติแยกกลุ่มอสม.ฝึกปฏิบัติการใช้ชุดทดสอบ(มี อสม.นักวิทย์ชุมชน สอน.แม่จั๊วะ เป็นครูพี่เลี้ยง) กลุ่มจนท.สธ.ใช้ฐานข้อมูลจากหน้าต่างเตือนภัยสุขภาพ และการจัดตั้งศูนย์แจ้งเตือนภัยฯในพื้นที่

รวมทั้งมีการลงทะเบียนใช้หน้าต่างแจ้งเตือนภัยถึง 113หน่วยงาน(ร้อยละ94.9)

การประเมินผลความรู้ก่อน-หลังการอบรมผ่านแบบประเมินonline พบว่าก่อนการอบรมมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ที่ร้อยละ 73.33(ตอบแบบประเมิน302คน) หลังการอบรมพบว่ามีค่าเฉลี่ยคะแนนเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 86.67(ตอบแบบประเมิน315คน)

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ได้สื่อสารและแลกเปลี่ยนประเด็นปัญหาเครื่องสำอางปลอมเลขจดแจ้งและผสมสารห้ามใช้ รวมทั้งการจัดการปัญหายาน้ำแผนโบราณปนปลอมสารเสตียรอยด์เช่นตราเทพธิดา, ตราพิกุลทอง โดยเครือข่ายสสจ. สสอ. รพช. รวมกับชุมชน และตรวจด้วยชุดทดสอบให้ชาวบ้านได้เห็นและแก้ไขปัญหาร่วมกัน

อสม.น่านเข้มแข็ง เสริมแรงขับเคลื่อนงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนทั้งจังหวัด เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ครอบคลุม 15 อำเภอ 424 คน 130 ศูนย์แจ้งเตือนภัย

วันที่ 25 พ.ค. 2560
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน จัดการอบรมโครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดน่าน ณโรงแรมเทวราช จ.น่าน โดยมีเจ้าหน้าที่ รพ.สต. รพช. สสอ. สสจ. และอสม.ตำบลละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 424 คน โดยมีนายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สสจ.น่าน เป็นประธานเปิดงาน และผอ.วิชัย ปราสาททอง ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่1/1เชียงราย กล่าวรายงานโครงการ และมอบชุดทดสอบให้แก่นายแพทย์สสจ.น่าน

มีการบรรยายอันตรายของผลิตภัณฑ์สุขภาพ การจัดการสุขภาพด้วยหน้าต่างแจ้งเตือนภัย และการใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย 4 ชุด ได้แก่สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง และสารเสตียรอยด์)

ภาคฝึกปฏิบัติแยกกลุ่มอสม.ฝึกปฏิบัติการใช้ชุดทดสอบ(มี อสม.นักวิทย์ชุมชน สอน.สถาน อ.นาน้อย เป็นครูพี่เลี้ยง) กลุ่มจนท.สธ.ใช้ฐานข้อมูลจากหน้าต่างเตือนภัยสุขภาพ และการจัดตั้งศูนย์แจ้งเตือนภัยฯในพื้นที่

รวมทั้งมีการลงทะเบียนใช้หน้าต่างแจ้งเตือนภัยถึง 130 หน่วยงาน

การประเมินผลความรู้ก่อน-หลังการอบรมผ่านแบบประเมินonlineพบว่าก่อนการอบรมมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ที่ร้อยละ 73.33 (ตอบแบบประเมิน333คน) หลังการอบรมพบว่ามีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.33 (ตอบแบบประเมิน 326คน)

นอกจากนี้ยังมีการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้จากอสม.ดีเด่นด้านคบส.ระดับภาค อสม.จุฑาทิพย์ วิไชยยา ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง มาเล่าประสบการณ์ในการดำเนินงานคบส.โดยมีจุดเด่นในการขับเคลื่อนงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในทีมคบส.ร่วมตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยด้วย และ อสม.นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน อสม.สุธารส ทาเสน จาก สอน.สถาน อ.นาน้อย มาเเลกเปลี่ยนการทำงานคบส.ในการเฝ้าระวังสินค้าในชุมชน รวมถึงการค้นหาผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ปลอมปนสารเสตียรอยด์ในพื้นที่ รวมทั้งการขยาย อสม.นักวิทย์ ไปยัง อย.น้อย.นักวิทย์ด้วย

สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ห่วงผู้สูงอายุไม่ปลอดภัยจากโฆษณาอาหารและยาหลอกลวง ผนึกกำลังกรมวิทย์อบรมหน้าต่างเตือนภัยให้ อสม นักวิทย์ชุมชนคุ้มครองผู้บริโภค

 

นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ได้กล่าวเปิดในงานจัดอบรม“โครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัด” ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องประชุมทับทิม โรงแรมชุมพรการ์เดนส์ จังหวัดชุมพร จัดโดย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร และ คคส. จุฬาฯ และบรรยายต่อ ผู้เข้ารับการอบรมว่า “การหลอกลวงขายผลิตภัณฑ์สุขภาพมีมากในชุมชน ยิ่งประชาชนอายุยืนขึ้น มีโรคเรื้อรัง อยากได้ยาวิเศษให้หายได้หายเร็ว จึงทำธุรกิจโฆษณาเอาเงินจากผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวาน ความดันโรคหัวใจ โรคไต ทำการโฆษณาแอบแฝงหลอกลวง สาวๆอยากหน้าสวย หน้าขาว ก็ทำครีมมาขาย บอกว่าใช้แล้วหน้าเด้งหน้าขาว สรุปว่า ปัจจุบัน มีสื่อหลอกลวงมาก พ่อค้าที่ขายสินค้าไม่ดีขาดคุณธรรม หวังเงินจากผู้บริโภค ทำสินค้าปนสารต้องห้าม ทำของที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน จึงต้อง ติดความรู้ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุข และ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข เพื่อเฝ้าระวังอาหารและยาที่ไม่ปลอดภัย มีเครื่องมือชุดทดสอบมาช่วยในการแยกแยะ มีหน้าต่างเตือนภัยเพื่อดู ผลิตภัณฑ์ ที่พบว่าไม่ปลอดภัย โดยมี ศูนย์แจ้งเตือนภัยสินค้าที่ไม่ปลอดภัยและมีพวกท่านซึ่งเป็นอาสาสมัครนักวิทย์ชุมชนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคเป็นครู ก มีหน้าต่างเตือนภัยที่สามารถใช้งานให้ชุมชนเข้าใจเพื่อพัฒนาให้เป็นอาสาสมัครสาธารณสุข นักวิทยาศาสตร์ชุมชนที่เชี่ยวชาญการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป” การอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าอบรม ๓๒๐ คน เป็น จนท จาก รพสต และ อสม รพ สต ละ ๒ คน จาก ๘ อำเภอ

ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ที่สุรินทร์ บุรีรัมย์


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 ขับเคลื่อนงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนในพื้นที่ 9 อำเภอ ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างความเข้มแข็งในการจัดการปัญหาเครื่องสำอางปลอมเลขจดแจ้ง และยาแผนโบราณปนปลอมสาร สเตียรอยด์ รวมถึงการส่งเสริมการใช้ยาที่เหมาะสมในชุมชน ในวันที่ ๒๔ พ.ค. ๒๕๖๐

เภสัขกรบรรจง กิติรัตน์ตระการ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๙ นครราชสีมา กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๙ นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ และ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันจัดโครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดสุรินทร์ ใน ๙ อำเภอ ได้แก่ อำภอรัตนบุรี อำเภอบัวเชด อำเภอสนม อำเภอโนนนารายน์อำเภอกาบเชิง อำเภอศรีขรภูมิ อำเภอท่าตูม อำเภอสังขะ อำเภอเขวาสินรินทร์ ณ โรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ผู้เข้ารับการอบรม คือ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. รพช. สสอ. สสจ. และ อสม.ตำบลละ ๒ คน รวมทั้งสิ้น ๒๘๖ คน โดยมีนายแพทย์วราวุธ ชื่นตา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน กล่าวเปิดงาน

Continue reading “ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ที่สุรินทร์ บุรีรัมย์”

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนเครือข่าย อสม นักวิทย์ชุมชนเตือนภัยอันตราย ผลิตภัณฑ์สุขภาพหลอกลวงเพื่อปกป้องชุมชน

นพ วันชัย เหล่าเสถียรกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายในการ อบรมโครงการขับเคลื่อนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเชี่ยวชาญงานคุ้มครองผู้บริโภคสู่นักวิทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องศรีลำดวนหนึ่ง โรงแรมศรีลำดวน จังหวัดศรีสะเกษ จัดโดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 อุบลราชธานี และศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนี้

” การที่จะให้ประชาชนทุกคนรู้ปัญหาจากสินค้าต่างๆ ไม่สามารถทำได้ จึงต้องการตัวแทนมาช่วย ทั้งอาหารที่ขายในโรงเรียน รถพุ่มพวง ตลาดนัด
รถเร่ หลายรายแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ โทรไปตามเบอร์ก็ไม่มีจริง

อสม จึงเป็นตัวแทนสำคัญที่สื่อสารกับชุมชน หมู่บ้าน ในเรื่องภัยสุขภาพ
เรื่องการบริโภค ให้ชุมชนตระหนัก
เอาปัญหาไปพูดคุยกับชุมชน ต้อง
สื่อสารหาคนมาร่วมงาน ทำคนเดียวจะเหนื่อย อาหารที่มาขายใน รร
อย น้อย เจอ บอกครูให้แก้ปัญหา
อสม รู้ปัญหาจากชุดทดสอบ
ถ้าฉลากปลอม ไม่มีแหล่งผลิต
เราไปบอกคนขายเองอาจไม่ดี
บอก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต
เราจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้าเอง

หากมึรถขายของไม่ดี ช่วยกันส่งข่าวบอกกัน การจะทำให้คนในชุมชนสุขภาพดี ต้องบอกท้องถิ่น ท้องถิ่นจะได้รู้และเข้าไปดูแล

อสม รู้เรื่องในชุมชนเป็นอย่างดี
ทราบจำนวนเด็ก จำนวน ผู้ป่วยติดเตียง เรามีหน้าที่สื่อสารเรื่องชุมชน
เป็นตัวแทนที่แท้จริงของชุมชน

การคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้เราเท่าทันเพื่อความปลอดภัย เป็นหูเป็นตาเพื่อเพื่อนบ้าน เป็นสื่อ เฝ้าระวังสิ่งไม่ดีไม่มีคุณภาพ บอกเตือนภัยสุขภาพ
ทั้งอาหารปลอม ยาปลอม

เทคโนโลยีก็สำคัญ เอาโทรศัพท์มาช่วยถ่ายรูปรถเร่ขายของไม่ดี มาสื่อสารไลน์ถึงกัน

เดี๋ยวนี้หลอกกันมาก อ้างว่ายานี้อาหารเสริมนี้ทรักษาคนหายคนเดียว ก็เอามาโฆษณา กินยานี้ ราคาขวดละ ๑๒๐๐ บาทแล้วหาย เป็นไปได้อย่างไร อสม ต้องมาช่วยกันเตือนพี่น้องในขุมขน

อสม จึงมีบทบาทเมื่อมีภัย สงสัยว่าไม่ปลอดภัย มีบทบาทเฝ้าระวัง สื่อสาร
ประสานเชื่อมโยงเครือข่าย แก้ปัญหาร่วมกันดำเนินการให้สำเร็จ

โดยสรุป อสม เป็นเครือข่ายที่สำคัญในชุมชนอยู่ใกล้ชิดกับชุมชน สามารถเฝ้าระวังปัญหาในชุมชนได้ดี เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็จะป้องกันชุมชน ทำให้เกิดความยั่งยืนในการคุ้มครองผู้บริโภค”

ศรีสะเกษ เสริมความเข้มแข็ง เครือข่าย อสม นักวิทย์ชุมชน เต็มพื้นที่ทั้งจังหวัด เพื่อความยั่งยืนในชุมชนด้านคุ้มครองผู้บริโภค

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๑๐ อุบลราชธานี และศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยผนึกกำลัง อบรมโครงการขับเคลื่อนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเชี่ยวชาญงานคุ้มครองผู้บริโภคสู่นักวิทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องศรีลำดวนหนึ่ง โรงแรมศรีลำดวน จังหวัดศรีสะเกษ การอบรมในครั้งนี้
นพ วันชัย เหล่าเสถียรกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวเปิดการอบรมพร้อมบรรยายเรื่อง เครือข่าย อสม นักวิทย์ชุมชนเตือนภัยอันตราย ผลิตภัณฑ์สุขภาพหลอกลวง เพื่อปกป้องชุมชน
( ดูรายละเอียดในเว็บ คคส แจ้งเตือนภัย) และ มีการบรรยาย เรื่อง บทบาท อสม นักวิทย์ชุมขนกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดย เภสัชกรวรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ รองศาสดาจารย์ เภสัชกร วิทยา กุลสมบูรณ์ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านจำนวน ๓๐๐ คน จาก ๑๕๐ รพ.สต ๆละ ๒ คน ใน ๒๒ อำเภอ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบลสำนักงานสาธารณสุขอำเภอโรงพยาบาลชุมชนและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งสิ้น ๓๗๐ คน

รายงานโดย กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุขสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ